อะคริลิค (Acrylic) คืออะไร?

อะคริลิค (Acrylic) คืออะไร?

      อะคริลิค (Acrylic) หรือที่รู้จักกันในชื่อทางเคมีว่า โพลิเมทิลเมทาคริเลต (Polymethyl Methacrylate: PMMA) เป็นพลาสติกประเภทหนึ่งที่มีความโปร่งใสและทนทาน ถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลายในหลากหลายอุตสาหกรรม เนื่องจากคุณสมบัติที่โดดเด่นของมัน เช่น ความแข็งแรง น้ำหนักเบา และความสามารถในการทนต่อสภาพอากาศได้ดี

คุณสมบัติของอะคริลิค

1. ความโปร่งใสสูง
       อะคริลิคสามารถส่งผ่านแสงได้ถึง 92% ทำให้มีความใสคล้ายกระจก แต่มีน้ำหนักเบากว่ามาก
2. ทนทานต่อแรงกระแทก
       แข็งแรงกว่ากระจกธรรมดาหลายเท่า และไม่แตกง่ายเหมือนกระจก
3. น้ำหนักเบา
       มีน้ำหนักเบากว่ากระจกถึง 50% จึงเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับการใช้งานที่ต้องการความเบา
4. ทนต่อรังสี UV และสภาพอากาศ
       ไม่เหลืองง่ายเมื่อถูกแสงแดดเป็นเวลานาน และทนต่อสภาพอากาศที่หลากหลาย
5. สามารถขึ้นรูปและดัดโค้งได้ง่าย
       สามารถใช้ความร้อนเพื่อดัดขึ้นรูปเป็นรูปร่างต่าง ๆ ได้โดยไม่สูญเสียคุณสมบัติพื้นฐาน
6. มีสีสันและพื้นผิวที่หลากหลาย
       มีทั้งแบบใส ขุ่น สีสันต่าง ๆ และสามารถเคลือบพื้นผิวเพื่อเพิ่มความสวยงามและการใช้งานพิเศษ                                                  

ประเภทของอะคริลิค  

อะคริลิคมีการผลิตออกมาในหลายรูปแบบเพื่อตอบสนองความต้องการใช้งานที่แตกต่างกัน โดยสามารถแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลัก ๆ ได้แก่

1. อะคริลิคแบบรีด
       ผลิตโดยกระบวนการรีดแผ่น มีต้นทุนต่ำกว่าชนิดหล่อ แต่ความแข็งแรงและคุณสมบัติต่าง ๆ อาจด้อยกว่าเล็กน้อย เหมาะสำหรับงานทั่วไป เช่น กล่องอะคริลิค ฝาครอบเครื่องใช้ไฟฟ้า และงาน DIY
2. อะคริลิคหล่อขึ้นรูป
       ผลิตโดยกระบวนการหล่อขึ้นรูป มีความแข็งแรง นิยมใช้ในงานที่ต้องการความทนทานสูง เช่น ป้ายโฆษณา แผ่นป้องกันกระสุน ข้อเสียคือความหนาบางไม่สม่ำเสมอทั้งแผ่น และอาจมีสิ่งเจือปนผสมมาด้วย
3. อะคริลิคหล่อขึ้นรูปแบบต่อเนื่อง
       กระบวนการผลิตอะคริลิคหล่อขึ้นรูปแบบต่อเนื่อง เป็นกระบวนการที่ทันสมัยที่สุดในปัจจุบัน นอกจากจะได้อะคริลิคที่มีคุณภาพดี รวดเร็ว ความหนาเท่ากันทั่วทั้งแผ่น ใสสะอาด มีความทนทานสูงแล้ว ยังปราศจากสิ่งเจือปนมาด้วย เหมาะสำหรับงานอะคริลิคที่ต้องการคุณภาพสูง 

การใช้งานของอะคริลิค
       อะคริลิคถูกนำไปใช้ในอุตสาหกรรมและงานตกแต่งหลากหลายประเภท เช่น
1. อุตสาหกรรมโฆษณา
       ใช้ทำป้ายโฆษณา ตัวอักษรโลโก้ และกล่องไฟ เนื่องจากความโปร่งใสและการสะท้อนแสงที่ดี
2. อุตสาหกรรมก่อสร้างและตกแต่งภายใน
       ใช้เป็นวัสดุตกแต่งผนัง กั้นห้อง ทำหลังคาโปร่งแสง และหน้าต่างแทนกระจก
3. อุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์
       ใช้ทำโต๊ะ เก้าอี้ ชั้นวางของ และตู้โชว์ เพราะมีความสวยงามและทนทาน
4. อุตสาหกรรมยานยนต์
       ใช้ทำกระจกหน้ารถไฟฟ้า ไฟหน้ารถ และชิ้นส่วนตกแต่งภายในรถยนต์
5. อุตสาหกรรมการแพทย์
       ใช้ทำอุปกรณ์ทางการแพทย์ เช่น กล่องเก็บตัวอย่าง ห้องปลอดเชื้อ และเลนส์สายตา
6 อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์
       ใช้เป็นแผงหน้าปัดอุปกรณ์ไฟฟ้า หน้าจอมือถือ และฝาครอบอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์

ข้อดีและข้อเสียของอะคริลิค

ข้อเสีย
1. อาจเกิดรอยขีดข่วนได้ง่าย
2. ไม่ทนทานต่อสารเคมีบางชนิด เช่น ตัวทำละลายที่มีฤทธิ์แรง
3. อาจเกิดไฟฟ้าสถิตได้ง่าย ทำให้ฝุ่นเกาะได้ง่าย

การดูแลรักษาอะคริลิค
1. ทำความสะอาดด้วยน้ำสบู่อ่อน ๆ และผ้านุ่ม หลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีที่มีฤทธิ์กัดกร่อน
2. ใช้ผ้าสะอาดและนุ่มเพื่อเช็ด ไม่ควรใช้ฟองน้ำหยาบหรือกระดาษทราย
3. หากเกิดรอยขีดข่วน สามารถใช้สารขัดเงาหรือขัดด้วยน้ำยาสำหรับอะคริลิคเพื่อช่วยให้พื้นผิวกลับมาใสเหมือนเดิม

สรุป
       อะคริลิคเป็นวัสดุพลาสติกที่มีคุณสมบัติยอดเยี่ยม ทั้งในด้านความโปร่งใส ความทนทาน และน้ำหนักเบา จึงเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับการใช้งานในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ตั้งแต่ป้ายโฆษณา งานก่อสร้าง เฟอร์นิเจอร์ ไปจนถึงอุปกรณ์ทางการแพทย์ ด้วยความสามารถในการดัดแปลงและปรับแต่งได้ง่าย ทำให้อะคริลิคยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องในตลาดวัสดุสังเคราะห์ทั่วโลก สนใจเรื่องอะคริลิค อะคริลิคคุณภาพดี ราคาถูก สามารถสอบถามได้ที่ บริษัท ศุฐิศา จำกัด โทร.02-1025913 หรือ เช็คราคาแผ่นอะคริลิคที่นี่